Signal Foundation

คณะกรรมการฯ

Amba Kak

Amba Kak เป็นทนายความและผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายเทคโนโลยีที่มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาต่อหน่วยงานรัฐ หน่วยงานประชาสังคม รวมถึงภาคอุตสาหกรรมและองค์กรการกุศลว่าด้วยกิจการข้ามชาติมามากกว่าสิบปี ปัจจุบัน Amba ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของ AI Now Institute ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำด้านการศึกษาวิจัยนโยบายที่ตั้งอยู่ในนิวยอร์ก และเป็นอาจารย์อาวุโส (Senior Fellow) ณ สถาบัน Cybersecurity and Privacy Institute แห่งมหาวิทยาลัย Northeastern

Amba เป็นที่ปรึกษาอาวุโสให้กับคณะกรรมการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ โดยให้คำแนะนำในส่วนของการควบคุมและกำกับดูแล ว่าด้วยปัญหาเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้น ก่อนร่วมงานกับ AI Now เธอเคยเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบาย (Global Policy Advisor) ที่ Mozilla โดยได้วางรากฐานและผลักดันจุดยืนของบริษัทต่อประเด็นต่างๆ อาทิ กฎหมายด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และความเป็นกลางของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและพื้นที่อื่นๆ ปัจจุบัน Amba เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของมูลนิธิ Mozilla Foundation Amba จบการศึกษาปริญญาตรี BA LLB (Hons) จากมหาวิทยาลัย National University of Juridical Sciences ประเทศอินเดีย และศึกษาต่อระดับปริญญาโทสาขานิติศาสตร์ (Masters in Law BCL) และสังคมศาสตร์ (MSc in the Social Science of the Internet) ที่มหาวิทยาลัย Oxford ด้วยทุน Rhodes Scholarship

Brian Acton

Brian Acton เป็นเจ้าของธุรกิจและโปรแกรมเมอร์ที่ร่วมก่อตั้งแอปรับส่งข้อความอย่าง WhatsApp ในปี 2009 หลัง WhatsApp ถูกขายให้ Facebook ในปี 2014 เนื่องจากมุมมองที่แตกต่างเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลของลูกค้าและการโฆษณาแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมาย Brian จึงตัดสินใจลาออกเพื่อทุ่มเทความสนใจให้กับกิจการไม่แสวงผลกำไร ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 เขาใช้เงินของตัวเอง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการลงทุนก่อตั้ง Signal Foundation ร่วมกับ Moxie Marlinspike Signal Foundation เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร สร้างขึ้นเพื่อวางรากฐานให้การติดต่อสื่อสารที่เป็นส่วนตัวนั้นเข้าถึงง่าย แพร่หลาย และปลอดภัย

ก่อนที่ Brian จะร่วมก่อตั้ง WhatsApp และ Signal Foundation เขาเคยทำงานเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์ในบริษัทอย่าง Apple, Yahoo และ Adobe มายาวนานกว่า 25 ปี

Jay Sullivan

Jay เป็นผู้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ในตำแหน่งหัวหน้างานอาวุโสของทีมผลิตภัณฑ์และวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค (Consumer Technology) เมื่อไม่นานมานี้ เขายังนั่งเก้าอี้ผู้จัดการทั่วไปของ Twitter โดยดูแลเรื่องผลิตภัณฑ์ (consumer and revenue product) วิศวกรรม การออกแบบ การวิจัย และวิทยาการข้อมูล ก่อนร่วมงานกับ Twitter เขาเคยสร้างผลงานที่ Facebook ในบทบาทของผู้นำการพัฒนา AI Assistant สำหรับ Reality Labs รวมทั้งนำทีมผลิตภัณฑ์ (Privacy, Integrity และ Systems) ให้ Messenger และ Instagram Direct Jay เคยดำรงตำแหน่ง SVP ในส่วนผลิตภัณฑ์และเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการที่ Mozilla ที่ซึ่งเขานำเสนอการอัปเดตฟีเจอร์สำคัญๆ ของ Firefox ในช่วงที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งยังกระตุ้นให้เกิดความสนใจในเว็บแพลตฟอร์มและเปิดโอกาสให้ผู้ใช้มีทางเลือกและสิทธิ์ในการควบคุมการใช้งานออนไลน์มากขึ้น

นอกจากนั้น เขายังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพของตัวเอง และเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในตำแหน่งวิศวกรซอฟต์แวร์และผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมที่ Firefly Network (ซื้อกิจการโดย Microsoft) และ Oracle อีกด้วย

Jay จบการศึกษาวิทยาศาสตรบัณฑิตในสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์จาก Yale College และมีผลงานร่วมจดสิทธิบัตรในสหรัฐฯ อยู่หลายรายการ

Katherine Maher

Katherine Maher เป็นอดีต CEO และกรรมการบริหารของมูลนิธิ Wikimedia Foundation เบื้องหลังความสำเร็จของ Wikipedia ปัจจุบัน Katherine เป็นอาจารย์อาวุโส (non-resident Senior Fellow) ที่สถาบัน Atlantic Council โดยเน้นศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยี สิทธิมนุษยชน และระบอบประชาธิปไตย ก่อนร่วมงานกับ Wikimedia เธอดำรงตำแหน่ง Director of Advocacy ให้กับหน่วยงานด้านสิทธิทางดิจิทัลอย่าง Access Now Katherine เป็นสมาชิก Council ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเป็น World Economic Forum Young Global Leader ทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย (Security Fellow) ของโครงการ Truman National Security Project อีกด้วย นอกจากนี้ เธอยังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของหน่วยงานหลายแห่ง อาทิ Center for Technology and Democracy, Consumer Reports, Digital Public Library of America, Adventure Scientists และ System.com ทั้งยังเป็นหนึ่งในทีมบริหารมหาวิทยาลัย American University of Beirut Katherine ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกของ Foreign Affairs Policy Board ประจำกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และรับผิดชอบด้านการให้คำแนะนำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ในเรื่องนโยบายเทคโนโลยี เธอสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีในสาขาตะวันออกกลางและอิสลามศึกษาจาก College of Arts and Science มหาวิทยาลัย New York ในปี 2005 และเคยศึกษาที่สถาบัน Arabic Language Institute มหาวิทยาลัย American University ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ และสถาบัน Institut français d'études arabes de Damas (L'IFEAD) ณ กรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย

Meredith Whittaker

Meredith Whittaker เป็นประธานกรรมการบริหารของ Signal และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหาร Signal Foundation

เธอมีประสบการณ์กว่า 17 ปีในด้านเทคโนโลยี ครอบคลุมแวดวงการศึกษา อุตสาหกรรม และหน่วยงานรัฐบาล ก่อนที่ Meredith จะเข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของ Signal เธอเคยเป็นศาสตราจารย์ด้านวิจัย (Minderoo Research Professor) ที่มหาวิทยาลัย NYU ทั้งยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการสถาบัน AI Now Institute การวิจัยและผลงานวิชาการของเธอมีอิทธิพลต่อนโยบายด้านเทคโนโลยี AI ในระดับโลก ทั้งยังช่วยปรับมุมมองที่สังคมมีต่อ AI ทำให้ตระหนักถึงวิถีปฏิบัติในการเก็บข้อมูลของธุรกิจ และทรัพยากรในอุตสาหกรรมจำนวนไม่น้อยที่ต้องใช้ไปกับ AI ในยุคปัจจุบัน ก่อนร่วมงานกับ NYU เธอเคยทำงานที่ Google เป็นเวลามากกว่าสิบปี นอกจากเป็นหัวหน้าทีมผลิตภัณฑ์และทีมวิศวกรรม Meredith ยังก่อตั้ง Open Research Group ของ Google และร่วมก่อตั้ง M-Lab ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการวัดผลระดับสากล ที่เป็นแหล่งเผยแพร่ข้อมูลเปิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ที่สุดในโลก Meredith ยังมีส่วนในการช่วยนำการประท้วงที่ Google อีกด้วย โดยเป็นหนึ่งในผู้จัดงานหลักที่แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการรับมือที่ไม่เหมาะสมของบริษัทต่อความกังวลเรื่อง AI และอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ทั้งยังเป็นผู้จัดกิจกรรมนัดประท้วง Google Walkout ด้วย Meredith เคยเป็นที่ปรึกษาด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย ปัญญาประดิษฐ์ นโยบายอินเทอร์เน็ต และการวัดผลให้แก่ทำเนียบขาว, หน่วย FCC, หน่วยงานการปกครองนิวยอร์ก (City of New York), รัฐสภายุโรป รวมถึงหน่วยงานรัฐและประชาสังคมอีกมากมาย นอกจากนี้ เธอยังเพิ่งสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสด้าน AI ให้กับประธานของคณะกรรมการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐอีกด้วย

ภารกิจของเรา

ความเป็นส่วนตัวสำคัญที่สุด

โอเพ่นซอร์ส

ไม่แสวงผลกำไร

มูลนิธิ + บริษัทจำกัด

เพราะความเป็นส่วนตัวสำคัญกว่าผลกำไรใดๆ

ทำไมจึงเป็นมูลนิธิ + โครงสร้างบริษัทจำกัด

ฟรีสำหรับทุกคน